เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน-ปิดจุดอ่อนคลังสินค้าทั้งระบบด้วยเทคโนโลยี Warehouse Simulation

• การจำลองคลังสินค้าช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานคลังสินค้า ลดต้นทุนแรงงาน ค่าอุปกรณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยไม่ขัดขวางการปฏิบัติการจริงภายในคลังสินค้าในแต่ละวัน

• ทำให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจอย่างชาญฉลาด และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• เทคโนโลยีการจำลองคลังสินค้าที่โดดเด่น ได้แก่ VR/AR, IoT, AI/ML และ Cloud Computing

การจำลองคลังสินค้า (Warehouse Simulation) เป็นการจำลองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคลังสินค้าด้วยการใช้เทคโนโลยี Digital Twin ซึ่งเป็นการจำลองวัตถุที่อยู่ในโลกให้ออกมาในรูปแบบเสมือน (Virtual) ทำให้เห็นภาพกระบวนการทำงานหรือระบบต่าง ๆ ของวัตถุในโลกจริง (Physical World) ได้สมจริงและหลายมิติมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

ในระบบนิเวศโลจิสติกส์ การแสดงกระบวนการทำงานเสมือนจริงนี้ ช่วยให้ผู้ประกอบการจำลองเค้าโครงคลังสินค้าของตัวเอง ตลอดจนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในหน้าที่ต่าง ๆ และการไหลของสินค้าภายในคลังสินค้า ด้วยการแสดงแบบ 3 มิตินี้ ทำให้สามารถเห็นภาพการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ในอนาคตได้อย่างชัดเจน ในขณะที่การปฏิบัติงานภายในคลังสินค้าจริงยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเทคโนโลยีนี้จะช่วยตรวจจับกระบวนการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ และสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้เห็นว่าจะต้องปรับปรุงกระบวนการทำงานในขั้นตอนใดบ้าง เพื่อทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น สามารถแนะนำวิธีการใหม่ ๆ ในการหยิบจับสินค้าที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยขึ้น เป็นต้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นพัฒนาการที่สำคัญของการจำลองคลังสินค้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงความต้องการการดำเนินงานคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด ต่อไปนี้เป็นเทคโนโลยีการจำลองคลังสินค้าที่โดดเด่นและน่าจับตา

เทคโนโลยี VR และ AR ช่วยให้ดำดิ่งสู่สภาพแวดล้อมคลังสินค้าเสมือนจริง สัมผัสประสบการณ์และโต้ตอบราวกับว่าผู้ใช้งานอยู่ในคลังสินค้าจริง ๆ รวมถึงให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และคำแนะนำแก่พนักงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

Internet of Things (IoT) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายในคลังสินค้าได้ ใช้ประโยชน์จากข้อมูล IoT เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่แสดงการเคลื่อนไหวของสินค้า สถานะอุปกรณ์ และสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ ช่วยปรับเวิร์กโฟลว์ของคลังสินค้าให้เหมาะสม ระบุคอขวด และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML)เพื่อปรับปรุงการจำลองคลังสินค้า ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมจากเซ็นเซอร์ ระบบสินค้าคงคลัง และการดำเนินงานคลังสินค้าในอดีตเพื่อระบุรูปแบบ คาดการณ์ความต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง และปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ รวมถึงให้คำแนะนำที่ชาญฉลาดเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและการตัดสินใจต่าง ๆ

หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (Autonomous Mobile Robots: AMRs) สามารถนำทางและปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองภายในสภาพแวดล้อมของคลังสินค้า การจำลองคลังสินค้าด้วยการใช้ AMRs ช่วยทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์คลังสินค้าที่มีอยู่ รวมถึงการวางแผนเส้นทาง การจัดสรรงาน และการประสานงานระหว่าง AMRs กับพนักงาน

การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) การจำลองคลังสินค้าบนคลาวด์ให้ความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และการเข้าถึง สามารถทำงานบนเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้หลายคนสามารถเข้าถึงและโต้ตอบกับการจำลองได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์ ด้วยการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อกับระบบการจัดการคลังสินค้าอื่น ๆ ยังทำให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมของการดำเนินงานคลังสินค้าทั้งหมดที่อยู่